1. PET
ในสภาพบริสุทธิ์ มีลักษณะคล้ายแก้วใส การเติมสารเติมแต่ง (additives) เป็นผลึก หรือกึ่งผลึก ซึ่งมีสีขาว หรือโปร่งแสงหรือการให้ความร้อนจะทำให้ PET มีสภาพ เป็นผลึก หรือกึ่งผลึก ซึ่งมีสีขาว หรือโปร่งแสง PET มีน้ำหนักโมเลกุลสูง มีความเหนียว ทนทาน และมีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทก จึงไม่แตกเมื่อถูกแรงกดดัน
2. ABS
พลาสติกที่มีความแข็ง จะมีลักษณะแข็งแต่เปราะ หรือหากมีสมบัติแข็งเหนียวก็จะมีลักษณะอ่อนนิ่มร่วมด้วย แต่ ABS แตกต่างจากพลาสติกทั่วไป เพราะเป็นพลาสติกที่มีความสมดุลทั้งในเรื่องความแข็ง (hardness) และความเหนียว (toughness) ทำให้พลาสติกมีสมบัติทนแรงกระแทก (impact resistance) ดี นอกจากนี้ ABS ยังมีสมบัติเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น ทนต่อแรงเสียดสี (abrasion) คงสภาพรูปร่างได้ดี (dimension stability) ทนความร้อน ทนสารเคมี มีช่วงอุณหภูมิใช้งานกว้าง (ตั้งแต่ -20°C -80°C) และสามารถขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายวิธี
3. PP
มีความแข็ง ความเปราะและแตกง่ายน้อยกว่า HDPE และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า LDPE มีผิวแข็ง ทนทานต่อการขีดข่วนคงตัวไม่เสียรูปง่าย มีความทนทานมากสามารถทำเป็นบานพับในตัว